วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เขาพระวิหารเป็นของใครกันแน่??



ศาลปค.คุ้มครอง เบรกรัฐ ชะลอเขาพระวิหาร [29 มิ.ย. 51 - 03:52]

ในที่สุด หลังจากศาลปกครองกลางใช้เวลากว่า 12 ชั่วโมง พิจารณาคดีที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสาน งานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายนิติธร ล้ำเหลือ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ พร้อมด้วยนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และกลุ่มนักกฎหมายจากสภาทนายความ รวม 9 คน ยื่นฟ้องนายนพดล ปัทมะ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ และคณะรัฐมนตรี ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในการออกแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทย-กัมพูชา เพื่อยืนยันและสนับสนุนประเทศกัมพูชา ให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดก โลก ปรากฏว่าศาลปกครองกลางมีข้อสรุปแล้ว.....
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ : http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=95189





Link

อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่นี่ : http://webboard.mthai.com/52/2007-07-01/332021.html

ประวัติเขาพระวิหาร : http://www.oceansmile.com/E/Srisaket/Khoapravihan.html

จากประเด็นนี้ทางกลุ่มผู้เขียนคิดว่ายังได้ข้อสรุปที่ไม่แน่ชัด เนื่องจากเกิดปัญหาทางพรมแดนระหว่างไทยและกัมพูชาตั้งแต่สมัยอดีตถึงยุคปัจจุบัน แต่คงไม่เห็นด้วยถ้าเราจะเสียดินแดนในส่วนที่เราพิสูจน์แล้วว่าเป็นของประเทศไทยจริงๆ ให้กับประเทศกัมพูชาไป ทางผู้เขียนจึงขอวิเคราะห์และนำเสนอ 2 แง่มุมคือ ไม่เห็นด้วยที่ต้องเสียเขาพระวิหารและดินแดนที่มีมาแต่โบราณที่เราอาจพิสูจน์ได้แล้วว่าเป็นของประเทศไทยไป แต่หากมองในอีกแง่มุมหนึ่งแล้ว การที่ไทยและกัมพูชายอมยุติปัญหาประเด็นดังกล่าวที่ไม่จบสิ้นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันได้ เพราะ การที่ 2 ประเทศได้ตกลงกันไป เรื่องนำเขาพระวิหาร ขึ้นเป็นมรดกโลกนั้น ก็เป็นการดีอย่างหนึ่งที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักเขาพระวิหารที่ จ.ศรีสะเกษ ในประเทศไทย ที่อยู่ติดพรมแดนกัมพูชา อีกทั้งรักษาโบราณสถานแห่งนี้ให้อยู่ตราบนานเท่านานเป็นมรดกของโลกให้คนรุ่นหลังรู้จักสืบต่อไป

และจากประเด็นนี้นะคะแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งในเรื่องของดินแดนที่ยังมีปัญหาอยู่ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในสังคมโลกยุคปัจจุบัน

แล้วจากประเด็นนี้คุณมีความคิดเห็นอย่างไร??? สามารถร่วมวิเคราะห์ประเด็นกับเราได้ที่นี่

และขอขอบคุณสำหรับทุกๆความคิดเห็นของท่านที่ส่งเข้ามานะคะ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งค่ะที่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

10 ความคิดเห็น:

  1. ก็นะ ได้ยินมาว่าตอนที่แบ่งอาณาเขตประเทศกันน่ะ คนที่แบ่งเป็นฝรั่งต่างชาติ แล้วก็เป็นการแบ่งแบบ ดูจากแผนที่เอา ไม่ได้มาดูสถานที่จริงก่อน มันก็เลยกลายเป็นปัญหาเอาตอนนี้ไง แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราว่าจะเป็นของใครก็ไม่สำคัญหรอก เพราะถึงประเทศไหนจะได้ไปก็มีส่วนได้-เสียไม่มากอยู่ดี เราอาจจะเก็บค่าเข้าชมหรือทำการบูรณะได้ แต่ก็แค่ส่วนหนึ่งอยู่ดี แต่ถึงทางนู้นจะได้ไปเราก็ยังข้ามไปเที่ยวได้อยู่ดี เพราะงั้น เราเลยคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอะไรมากมาย แต่อันนี้ก็เป็นแค่ความเห็นของเราคนเดียวอ่ะนะ ใครมีอะไรจะแย้งก็โพสมาละกัน ^^

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2551 เวลา 07:19

    เราอ่ะมีความเห็นว่าเราเสียดินแดนส่วนนั้นไปตั้งนานแล้วนะ เกี่ยวกับเรื่องนี้เราก็ไม่ค่อยมีข้อมูลพอด้วยเห็นออกมาพูดแต่ละคนก็พูดไม่เหมือนกันสักคน ถ้ากัมพูชาเอาไปได้และสามารถรักษาได้ดีก็เอาไปเถอะ แต่ก่อนความจริงแถวนี้ก็คือเขมรไม่ใช่เหรอ? ถ้าจะพูดไปปราสาทก็คือบรรพบุรุษพวกเขาสร้างไม่ใช่ของเราสักหน่อย เราจะไปเถียงแย่งเขาทำไมเราน่ะเสียดินแดนสวนนั้นไปตั้งนานแล้ว... นพดลก็ไม่ได้ได้ทำไรผิดหรอกเราคิดว่าใครจะคิดไม่ดีกะชาติตัวเอถ้ามัยเอาขึ้นสภาก็ไม่ทันทำอะไรพอดี

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ22 กรกฎาคม 2551 เวลา 07:45

    โหยเรื่องนี้มีมานานมากๆละ แบบว่าบรรพบุรุษเถียงกันจะแย่งกันไปมาทำไงได้เนอะ ขอให้แบบว่ารักษาไว้ตลอดชั่วลูกชั่วหลานแล้วกันนะ โบราณสถานอันทรงคุณค่าแห่งนี้อ่ะ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ22 กรกฎาคม 2551 เวลา 08:19

    เป็นของชาติก็ดีนะ ประเทศเราจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับประเทศเพื่อนบ้าน

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ22 กรกฎาคม 2551 เวลา 08:39

    I don't know about them a lot but I think It's not improtant thing for our relationship between Thailand and Cumbodia. I don't know who want to have a problem with neighbour country.




    Bewtez^^

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ26 กรกฎาคม 2551 เวลา 06:24

    สรุปครัยถูกครัยผิดอ่า...งง

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ26 กรกฎาคม 2551 เวลา 07:44

    บทสรุปออกมาแล้ว แต่กัมพูชายังจะเรียกร้องอะไรอีกก็ไม่รู้น่ะ

    มรดกโลกแล้วนะคร้าคุณ จาเอาอะไรอีกน่ะ

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ26 กรกฎาคม 2551 เวลา 12:35

    นั่นสิ...แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่คนไทยได้เห็นคือ ความกระสันในการที่จะยกขายดินแดนให้กับกัมพูชา เพื่อจุดประสงค์ รัฐบาลไทยจะตกลงยอมกัมพูชา และกัมพูชาจะต้องยอมรับข้อตกลงของกลุ่มทุนสามานย์จากประเทศไทยเรียกร้อง ทั้งสิทธิสัมปทานต่างๆ ในเกาะกง และสัมปทานน้ำมัน รวมทั้งแก๊ส รอบๆ เกาะกง ซึ่งเชื่อกันว่าบริเวณนั้นเป็นแหล่งก๊าซที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นทวีป ต่อมานายนพดล ได้เดินทางไปเปิดทางหลวงสาย 48 ซึ่งทำขึ้นมาเพื่อที่จะไปต่อกระเช้าขึ้นไปยังเขาพระวิหาร ซึ่งจะกลายเป็นบ่อนการพนันที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจาเสียมราษ นี่คือความชั่วร้ายของนักการเมืองพันธ์ขายชาติ ทั้งๆ ที่ ปราสาทเขาพระวิหารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ27 กรกฎาคม 2551 เวลา 07:06

    ที่แย่งๆกันนี่ ก็คงจบแล้วสินะ เปนของโลกไปเลย

    เรื่องนานนมมาละ ข่าวก้อออกได้ตลอดเลย จบข่าวครับ

    ขออย่าให้มีไรตามมาอีกนะเว้ย จบก้อคือจบนะ

    ตอบลบ